6 สิ่งที่ต้องรู้เตรียมตัว ถ้าจะขายสินค้าที่มาจากจีน
จากที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าตลาดออนไลน์มันโตมาก โตมากจนฉุดไม่อยู่ ใคร ๆ ก็ขายออนไลน์ วันนี้จึงมีอีกช่องทางหนึ่งที่จะขายออนไลน์มานำเสนอทุก ๆ คน นั่นก็คือ “การรับของจากจีนมาขาย” ทำไมต้องจากจีน? ทำไมต้องเป็นประเทศนี้? ก็เพราะว่ารับของมาขายจากจีน สินค้าจากจีนมีต้นทุนที่ต่ำมากกว่าประเทศอื่น ๆ สินค้าก็มีเยอะมาก และสินค้าของใช้ในบ้านบางอย่างคือน่าซื้อ น่าใช้ อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของผู้บริโภคปัจจุบันมาก ๆ นอกจากนี้แล้วการรับของจากเว็บจีนมาขายนั้นง่ายแสนง่ายไม่ต้องมีหน้าร้านของตัวเอง เพราะแค่รับสินค้ามา แล้วเอามาขายในช่องทางของตัวเองในไทยได้เลย จะลงขายใน Facebook, Shopee, Lazada, LINE OA, TikTok หรือ Website ของตัวเองย่อมทำได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
แต่ก่อนที่จะลงทุนนั้นทุกอย่างก็มีความเสี่ยงอยู่แล้วล่ะ ดังนั้นวันนี้ใครกำลังคิดจะลงทุนเกี่ยวกับสินค้าจีนล่ะก็… ต้องมาอ่านบทความนี้เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจกัน และลดความเสี่ยงในการขาดทุน หรือจมทุนกับสินค้าจีน
1. ดูเว็บไซต์แหล่งขายของจีนที่น่าเชื่อถือ
การสั่งสินค้าจากจีนนั้นเราจะไปสั่งมาโต้ง ๆ ตามร้านค้าที่นั่นไม่ได้ เราต้องมีการสั่งสินค้าจากเว็บไซต์ของคนที่จีน ที่เค้าทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวกลางในการรับออเดอร์ของเราไปสั่งจากร้านค้าต่าง ๆ ต่อ จากนั้นเว็บไซต์เหล่านี้จะทำการส่งของมาถึงไทยให้เราเลย โดยเว็บไซต์ที่ทางเราแนะนำก็จะเป็นดังนี้เลย Alibaba, AliExpress, Taobao, Tmall, 1688 และ Banggood
2. ประเภทสินค้าที่จะนำมาขาย
ประเภทสินค้าที่ควรจะนำมาขายนั้น ควรจะเลือกจากของที่เราสนใจ เป็นของที่เราใช้แล้วเราคิดว่าดีก่อน เมื่อเราเริ่มจากสินค้าที่เราชอบ เราจะมีแรงจูงใจในการขาย เราแนะนำว่าเจ้าของร้านค้าควรจะสั่งสินค้ามาเป็นชิ้น มาลองใช้ มาลองกินก่อน แล้วถ้ามันดี มันอร่อย เราก็ค่อยสั่งมาขาย
ส่วนเรื่อง “เอาอะไรมาขายดี ?” เรามีสินค้าแนะนำที่คนส่วนใหญ่มักจะเลือกมาขาย นั่นก็คือ ขนม, เสื้อผ้าแฟชั่น, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ เครื่องประดับ ขนมเราต้องดูดี ๆ ว่าเป็นขนมหมดอายุไวหรือช้า และต้องคำนวณระยะเวลาการขนส่งด้วยนะ ว่าส่งมาถึงไทยแล้วของจะหมดอายุหรือยัง ในส่วนของสินค้าอื่น ๆ ที่มาจากจีนมักจะเป็นสินค้าราคาประหยัด ราคาถูกกว่าตลาดในไทย บางสินค้าก็ตรงปก บางอันไม่ตรงปก เราถึงต้องลองสั่งมาก่อนแล้วค่อยการันตีได้ว่าของตรงปกจริง และส่งให้ลูกค้าได้อย่างสบายใจ
3. สินค้าตามกระแสหรือสินค้าทั่วไป
สินค้าในเว็บไซต์จีนมีให้เลือกเต็มไปหมด แน่นอนว่ามันต้องมีสินค้าที่ขายทั่วไป ใช้ได้ตลอด กับสินค้าที่เป็นกระแส สินค้าที่เป็นที่นิยมในขณะนั้น เช่น หน้ากาก Squid Game หรือเป็นเคสโทรศัพท์ที่เป็นลายแฟชั่นนั่นเอง แน่นอนว่าสินค้าเหล่านี้ขายง่ายอยู่แล้ว (ง่ายในระยะเวลาหนึ่ง) แต่ถ้าหมดยุค หรือตกยุคไปล่ะก็ คุณจะจมทุนเลย และของที่สต็อคก็ต้องเอามาเลย์หลัง และขายไม่ออก แจกชาวบ้านไปหมด
4. ไปส่องก่อนว่าในไทยมีขายรึยัง
ไปเช็คดูใน Lazada/Shopee ด้วยว่ามีคนขายของแบบนี้เยอะไหม และราคาเป็นอย่างไรบ้าง การส่องคู่แข่งนั้นสำคัญมาก เพราะถ้าเราเจอคู่แข่งเป็นร้านใหญ่ น่าเชื่อถือ ยอดซื้อเยอะหลายพันชิ้น เราเองก็มีโอกาสที่จะขายไม่ออก ลูกค้าไม่เชื่อถือ ตรงนี้อาจจะเกิดปัญหาทำให้การขายสินค้าของเราเป็นไปด้วยความยากลำบาก
5. ปัญหาเกี่ยวกับสินค้าจีน
ก่อนสั่งต้องมาดูก่อนว่าสินค้าจีนนั้นมีปัญหาอะไรบ้าง วันนี้จะมี 3 ปัญหาใหญ่ ๆ จากการสั่งสินค้าจีนมาเล่าให้ฟังดังนี้
5.1 ปัญหาสินค้าไม่ตรงปก สินค้าของจีนบางทีดูในรูปก็ไม่พอ เพราะในรูปบางทีก็จะมีความเกินจริง หรือใช้แอพลิเคชั่นในการแต่งรูปไปต่าง ๆ นานา ทำให้เมื่อสั่งมาแล้วสินค้ามักจะไม่ตรงปก คุณภาพด้อยกว่าที่โฆษณาไว้
5.2 ปัญหาส่งของช้า ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ผลกระทบการส่งสินค้าข้ามประเทศมีมากขึ้น การส่งสินค้าจากศุลกากรนั้นอาจจะมีปัญหา ดังนั้นต้องเลือกร้านค้าในเว็บที่เชื่อถือได้ และมีการการันตีสินค้าว่าจะส่งมาจริง ภายในวันที่เท่าไหร่ และสามารถรายงานปัญหากับทางแอดมินร้านได้
5.3 ปัญหาการติดต่อสื่อสาร การคุยกับคนจีนนั้นบางครั้งก็จะมีปัญหาด้านการสื่อสาร เนื่องจากคนไทยก็อาจจะพูดจีนไม่เป็น และแน่นอนว่าคนจีนพูดไทยไม่ได้ ดังนั้นภาษาที่จะติดต่อกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งทั้งคู่ก็จะไม่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษา วิธีแก้ไขของทั้ง 2 ฝั่งคือเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาจะต้องหาล่ามมาแปลภาษาและช่วยกันแก้ไขปัญหาร่วมกันนั่นเอง
6. เริ่มลงทุนจากเงินจำนวนน้อยก่อน
ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงอยู่แล้ว ดังนั้น OURPOINT ของเราจะแนะนำว่า ใครที่กำลังคิดจะลงทุนกับสินค้าจีนก็ควรจะเริ่มจากล็อตเล็ก ๆ ก่อน และเมื่อเริ่มมีการขายได้จริง หรือมีออเดอร์เข้ามาเรื่อย ๆ มากกว่า 50% ก็ควรจะสั่งล็อตต่อไปที่มีมูลค่าการสั่งมากขึ้นได้
การขายของจากจีนนั้นมีการแข่งขันสูงมาก ด้วยตลาดที่เข้าง่าย ลงทุนน้อยได้ และไม่ต้องมีร้านค้าเป็นของตัวเอง จึงทำให้เป็นที่นิยมสำหรับแม่ค้าพ่อค้าชาวไทยเป็นอย่างมาก OURPOINT เราเองก็ Support สำหรับสินค้าทุกชนิด ใครอยากเก็บข้อมูลลูกค้าและมีการทำ CRM กับลูกค้าก็อย่าลืมเข้ามาแวะชมเว็บไซต์ของเราหรือเข้ามาทดลองระบบเราสามารถใช้ฟรีได้ 30 วันเลยทีเดียว
Author : Pajaree Kanmaneelert
