SEO และ SEM คืออะไร? แม่ค้าออนไลน์ทำอะไรกับ SEO ได้บ้าง
ยุคสมัยนี้ ทุกคนต้องเคยได้ยิน หรือคุ้นหูมาบ้างกับคำว่า SEO แต่บางคนยังรู้ไม่ลึก ว่า SEO คืออะไร, SEO ทำอย่างไร, การทำงานของ SEO เป็นยังไง และนอกจากคำว่า SEO ยังมีคำว่า SEM อีกด้วย แล้ว SEO และ SEM คืออะไรกันแน่ วันนี้มาหาคำตอบไปด้วยกัน ซึ่งบทความนี้จะใช้สำหรับน้อง ๆ ที่เรียน Marketing ในมหาวิทยาลัย และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการให้สินค้าตัวเองเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization มาแยกคำเป็นชิ้น ๆ กันเถอะ
S Search = การค้นหา
E Engine = เครื่องจักร, กลไก
O Optimization = การเพิ่มประสิทธิภาพ
SEO นั้นจะใช้กับธุรกิจที่มี Website ไม่ว่าจะเป็น Website ของธุรกิจ หรือ Facebook หรือ Market place อื่น ๆ ดังนั้น เมื่อนำมาประกอบกัน SEO ก็คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา Website ของเรานั่นเอง พูดง่าย ๆ ภาษาชาวบ้านเลยก็คือ การทำให้ Website ของเรา ติดอันดับดี ๆ ใน Google เวลาคนค้นหาสิ่งของใน Google เว็บเราก็จะขึ้นเป็นอันดับแรก ๆ นั่นแหละ เช่น เราขายกรอบรูปแฮนด์เมด ดังนั้นถ้าเราทำ SEO ดี ๆ เวลาคนที่เค้ามา Seach ใน Google ว่า “กรอบรูป” “กรอบรูปแอนด์เมด” “กรอบรูป Handmade” “กรอบรูปทำมือ” ก็จะเจอเราในหน้าแรกของ Google นั่นเอง
แล้ว SEM ล่ะ คืออะไร? SEM ย่อมาจาก Search Engine Marketing ก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพการ Seach ด้วยการทำ Marketing หรือพูดง่าย ๆ ว่ามันคือการทำโฆษณาผ่าน Search นั่นเอง ซึ่ง SEM นั้นมีค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน หลักการทำงานของ SEM คือ เราจ่ายเงินซื้อคำค้นหา (Keywords) นั่นเอง ตัวอย่างเดิมเลย เราขายกรอบรูปแอนด์เมด แต่เราไม่โด่งดัง เราไม่มีทางติดอันดับหน้าแรกของ Google ได้แน่ ๆ สิ่งที่เราต้องทำเลยคือการใช้เงินแก้ปัญหา นั่นคือไปซื้อ Keyword คำว่า “กรอบรูป” “กรอบรูปแอนด์เมด” “กรอบรูป Handmade” “กรอบรูปทำมือ” หลังจากซื้อแล้ว Google จะพาเราไปขึ้นโฆษณาหน้าแรก เพื่อให้คนค้นหาแล้วเจอเรานั่นเอง
ความแตกต่างของ SEO และ SEM
สมมติว่าเราเป็นระบบ POS ซึ่งเราต้องการให้คนที่ search คำว่า “ระบบ pos” ใน Google มาเจอเว็บเรา จะสังเกตุเห็นว่า SEM จะมีคำว่า “Ad” ปรากฏขึ้นนั่นเอง นั่นหมายความว่าเว็บไซต์ใดก็ตามที่ขึ้นคำว่า “Ad” เป็นเว็บไซต์ที่ทำ SEM ส่วนเว็บที่ไม่ได้มีคำว่า “Ad” ไม่ได้หมายความว่าเค้าไม่เคยทำ SEM นะ เว็บที่เป็น SEO ตามภาพนั้นย่อมต้องเคยทำ SEM มาก่อนแล้วทั้งนั้น กล่าวโดยสรุป ถ้าเว็บเราไม่เคยทำโฆษณาใน Search Engine มาก่อนเลย เราต้องทำ SEM ก่อน ถึงจะติดอันดับใน SEO
เริ่มต้นทำ SEO อย่างไร?
เริ่มต้นจากการศึกษาวิธีการทำงานของ Search Engine ก่อน จากนั้นทำเข้าไปสร้าง Account ของตัวเองใน Google Ads จากนั้นศึกษาข้อมูลการยิง Ads ใน Google และเริ่มทำ SEM ก่อน จากนั้น Google จะเริ่มสอนให้เราติด SEO ในที่สุดนั่นเอง แต่สิ่งสำคัญคือต้องเรียนรู้ Algorithm ของ Search Engine ก่อนว่าระบบมีการทำงานอย่างไร และอย่าลืมที่จะอัพเดตข่าวสารตลาด เพราะ Google เค้ามีการพัฒนาระบบตลอดเวลา
ข้อดีของการทำ SEO
1. เป็นที่น่าเชื่อถือ เพราะ Google เป็นแหล่งที่น่าเชื่อถือ ทำให้เราน่าเชื่อถือไปด้วย
2. ลูกค้าค้นหาเราได้ง่ายมากขึ้น เจอง่าย ซื้อของไว
3. ถ้าคู่แข่ง SEO ไม่แข็งแรง เราก็จะได้เปรียบทางการแข่งขัน
4. เป็นทางเลือกการโฆษณาอีกช่องทาง ให้ลูกค้าพบเจอเรา
5. มีโอกาสในการปิดการขายได้ไว
6. ประหยัดต้นทุนในระยะยาว เพราะถ้าติด SEO แล้วไม่ต้องทำ SEM ก็ได้ ไม่ต้องเสียเงินเลย
7. มีโอกาสให้คนทั้งโลกได้เจอ Product ของเรา เพราะ Global
8. Coding ของฝั่งนักพัฒนามีคุณภาพ เพราะได้ทำตามมตรฐานของ Google Search Engine
การทำ SEO นั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด กว่าจะบิด Keyword ให้ติดอันดับนั้นยากเย็นแสนเข็น ยิ่งถ้า Keyword แข็งแรง คน Search เยอะ ยิ่งแข่งกันมาก ค่าคลิกก็จะแพงมาก บาง Keyword ใช้เวลามากกว่า 6 เดือนกว่า Website จะไปขึ้นหน้าแรกของ Google แต่ถ้าหากเราเริ่มต้นก่อน เราได้เปรียบคู่แข่งอย่างแน่นอน
Author : Pajaree Kanmaneelert
