7 วิธีรักษายอดขายสำหรับร้านค้าออนไลน์

     การเผชิญกับภาวะ COVID-19 ทำให้ยอดขายหลายร้านตกไปไม่น้อย และก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลยสำหรับเจ้าของร้านค้าต่าง ๆ ทำให้หลายร้านค้าต้องมีการปรับตัวหลายประการ จึงทำให้เจ้าของร้านค้าต้องดิ้นรนหาวิธีรักษายอดขายเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายไปขายออนไลน์ หรือเพิ่มบริการ Delivery อีกด้านของลูกค้า ก็คือไม่ค่อยออกไปชอปปิงตามห้าง หรือเดินตลาดอีกแล้ว แค่เข้าแอปไปช็อปปิ้งและรอของมาส่งถึงที่แบบสบาย ๆ ดังนั้นการรักษายอดขายสำหรับร้านออนไลน์จึงเป็นกลยุทธ์ที่ต้องทำ
    “การเป็นที่หนึ่งนั้นไม่ยาก แต่การรักษาที่หนึ่งนั้นยากกว่า” เป็นคำพูดที่จริงตลอดกาล เพราะเมื่อย้อนไปเมื่อหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ใครจะไปรู้ว่าโออิชิที่เป็นน้ำชาเขียวแสนอร่อยที่ขายเพียงเจ้าเดียวจะถูกคู่แข่งจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาตีจนทำให้เราเห็นชาเขียวขวดขายอยู่ในร้านสะดวกซื้อหลายแบรนด์เต็มไปหมด ด้วยเหตุเหล่านี้ทำให้การรักษายอดขายและเติบโตเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจ

Online owner

    การรักษายอดขายนั้นต้องตั้งต้นจาก “แหล่งที่มาของยอดขาย” นั่นก็คือ “เงินในกระเป๋าของลูกค้า” ทำให้ร้านค้าจะต้องเพิ่มจุดโฟกัสไปที่ลูกค้าของเรา จึงเป็นส่วนหนึ่งของการทำ CRM (Customer Relationship Management) หรือระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ที่เราคุ้นหูกันในระบบแบรนด์ใหญ่ ๆ จะทำ CRM กันนั่นเอง
    ขั้นตอนการรักษายอดขายสามารถทำได้โดยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

1. รู้ที่มาที่ไปของยอดขาย


ยอดขายของร้านค้ามาจากลูกค้าในช่องทางใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, LINE OA, LAZADA, Shopee, JD, Website การทราบที่มาที่ไปอย่างดี จะทำให้การวางแผนเป็นไปอย่างราบรื่น

2. เรียงลำดับช่องทางที่ทำยอดขายมากที่สุด


จากช่องทางในข้อ 1. นั้น คุณต้องทราบว่าแต่ละช่องทางทำยอดขายได้มากน้อยเพียงใด โดยการบันทึกยอดขายรายวันตามช่องทางต่าง ๆ และทำการเรียงลำดับช่องทางที่ขายได้มากที่สุด จากนั้นคุณจะได้ไปจัดทำงบการตลาดสำหรับช่องทางเหล่านั้น

3. การจดบันทึกเป็นสิ่งสำคัญ


เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ลูกค้า Complain มาเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะทุกการบ่นการติชมคือทำให้ร้านคุณได้พัฒนามากขึ้น จะเป็นการดีถ้าหากคุณมีโน๊ตเล็ก ๆ สักเล่มและจด Feedback ของลูกค้าเพื่อมาปรับปรุงการบริการต่อไป นอกจากนี้ยังรวมถึงการเก็บข้อมูลของลูกค้าอย่างเป็นทางการด้วย จะเห็นว่าร้านค้าสมัยใหม่ 2021 เริ่มมีการใช้ระบบสะสมแต้ม เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้ามาใช้ในการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้านั่นเอง

4. ค้นหาพนักงานขายดีเด่น


ในโลกออนไลน์อาจจะไม่มีพนักงานขายเป็นจริงเป็นจัง เพราะเครื่องมือในออนไลน์หลายอย่างก็เป็นตัวช่วยให้ยอดขายของร้านค้าเพิ่มขึ้น ดังนั้นพนักงานขายในที่นี้ก็คือแอดมินผู้ที่คอยตอบลูกค้าของเรา เพราะการตอบคำถามอย่างสุภาพ และรวดเร็วนั้นเป็นตัวแปรหนึ่งที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ

5. เปิดใจให้กว้างเปิดรับช่องทางการขายใหม่ ๆ ที่ไม่สิ้นสุด


โลกหมุนด้วยออนไลน์ ช่องทางต่าง ๆ ก็เพิ่มขึ้นมาไม่มีจบสิ้น ทั้ง LAZADA, Shopee, JD และอีกหลาย ๆ ช่องทางออนไลน์ที่เพิ่งมาบูมตีตลาดออนไลน์ไทยก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นถ้าหากศึกษาข้อดีข้อเสียของแต่ละช่องทาง จะทำให้สินค้าของคุณพร้อมเสิร์ฟลูกค้าเสมอ

6. เรียนรู้การทำโฆษณาออนไลน์


“ยิงแอด” เป็นคำเท่ ๆ ที่ร้านค้าหลายร้านหลายเอาไว้เพิ่มยอดขาย ซึ่งการยิงแอดในปัจจุบันก็มีต้นทุนสูงขึ้น ดังนั้นร้านค้าจะต้องวางแผนทำโฆษณาอย่างละเอียดรอบคอบ ซึ่งในปัจจุบันทั้งใน Google และ YouTube ก็มีผู้ที่สอนยิงแอดมากมายให้เรียนรู้


7. After sale service ช่วยให้ลูกค้ากลับมา


หลายร้านมัวแต่โฟกัสการขายหน้าร้าน แต่ลืมไปว่าบริการหลังร้านหลังจากที่ลูกค้าซื้อแล้วก็สำคัญเช่นกัน การที่มีระบบการติดตามความพึงพอใจ ระบบเก็บ Feedback ของลูกค้า จะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเห็นข้อดีข้อเสียของตัวเองและนำไปพัฒนาให้ดีขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ และแถมจะช่วยแนะนำให้เพื่อน หรือคนรู้จักมาซื้อด้วยกัน



กล่าวโดยสรุป โลกหมุนไวไปตามกาลเวลา มนุษย์จะต้องพัฒนาตัวเองเพื่อให้อยู่รอดเสมอ ดังนั้นการหมั่นศึกษาหาข้อมูล ติดตามข่าวเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
 


Author : Pajaree Kanmaneelert