7 เทคนิควิธีเพิ่มยอดขายรักษาลูกค้าบน facebook ในปี 2021
Facebook ในโลกปัจจุบันแทบจะเป็นแอปที่ต้องมีทุกเครื่องของทุกคน Facebook ได้เสนอเข้า IPO ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 อีกไม่นานก็จะครบ 10 ปีของ Facebook แล้ว และก็เป็นแพลตฟอร์มที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศไทย การค้าขายใน Facebook เองก็คึกคักมาก ร้านค้าหลายร้านก็ต้องการเพิ่มยอดขาย และรักษาลูกค้าบน Facebook ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งคนในนั้นที่ต้องการเพิ่มยอดขายใน Facebook คุณอ่านได้ถูกบทความแล้ว มาเริ่มกันเลย
1.สร้างเพจ และวิธีตั้งชื่อเพจ
การสร้างเพจ สามารถสร้างได้ที่ facebook.com/pages/create จากนั้นก็เริ่มสร้างได้เลย
วิธีตั้งชื่อเพจนั้นสำคัญมาก เพราะการเปลี่ยนชื่อเพจมีวิธีการที่ยุ่งยาก และใช้เวลานานมากในการเปลี่ยน ดังนั้นคุณควรคิดชื่อเพจให้ดีตั้งแต่แรก การตั้งชื่อเพจที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
-เริ่มต้นด้วยชื่อ Brand ที่เรียบง่าย และไม่ซ้ำใคร
-ใส่ Keyword ที่คนน่าจะค้นหาในผลิตภัณฑ์ของคุณ เช่น “เครื่องสำอางเกาหลีนำเข้า”
-พยายามอย่าเอาคำตามกระแสมาใส่ เพราะถ้ากระแสหมด คนก็จะไม่สนใจเพจเรา
-ไม่ยาวจนเกินไป
ตัวอย่างชื่อเพจที่ดี เช่น ร้านค้าคุณชื่อ “Adashi” และจำหน่ายลิปสติกนำเข้าจากญี่ปุ่น ชื่อเพจก็จะเป็น “Adashi ลิปสติกญี่ปุ่นนำเข้า” เป็นต้น
2.นำเพจไปอยู่ในกลุ่ม
ปัจจุบัน ในการเข้ากลุ่ม (Group) ไม่จำเป็นต้องเป็น Facebook บุคคลแล้ว เพราะสามารถนำเพจไปอยู่ในกลุ่มได้ คุณจะต้องคัดเลือกกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าที่ขาย และก็นำตัวเพจไปอยู่ในนั้น และถ้าหากมีโอกาสก็ทำการโพสต์ขายของได้เลย แต่คุณต้องดูบริบทรอบ ๆ ในกลุ่มด้วยนะ ถ้าหากเน้น Hard sale เกินจนคนรำคาญและทำตัวไม่น่ารัก อาจจะโดนลบออกจากกลุ่ม หรือโดนแบน ทำให้เสียชื่อเสียงได้
3.สร้าง Branding ที่ดีในเพจ
ภาพและวิดีโอที่คุณโพสต์ จะอยู่ในเพจคุณตลอดไป ดังนั้นก่อนโพสต์ขายหรือลงรูปใด ๆ ก็ต้องมีสติ และก็ตรงตาม Branding ของคุณ เช่น Branding ของคุณคือสินค้า Luxury การโพสต์ของคุณก็ต้องมีการเลือกเฉดสีและคำพูดสละสลวยสวยหรูดู Elegant นั่นเอง
แอดมินเพจเป็นตัวแปรหนึ่งที่สำคัญของ Branding เพจ เพราะการตอบคำถาม สำบัดสำนวนในการพิมพ์นั้นจะสื่ออารมณ์ออกมา ดังนั้นการบริการก็สำคัญมากเช่นกัน คุณควรเลือกแอดมินที่ดี พิมพ์คะ/ค่ะ ถูกต้อง พิมพ์ตอบด้วยไหวพริบที่ดี และมีความสามารถในการบริการ
คุณอาจจะชอบบทความการสร้างแบรนด์ของ Starbucks ก็ได้นะ : ความลับที่ Starbucks รู้ แต่คนทำร้านกาแฟไม่เคยรู้
4.อัปเดตเพจอยู่เสมอ
อย่าปล่อยให้เพจเงียบจนเกินไป พยายามหาอะไรมาอัปเดตเสมอ แต่เราก็เข้าใจนะเพราะบางครั้งการโพสต์อะไรต่าง ๆ ก็จะตัน ๆ หน่อย ไม่รู้จะโพสต์อะไรทุกวัน เราเลยจะแนะนำให้คุณลองไปส่องเพจอื่น ๆ ที่เป็นเพจตัวอย่างที่ดี ดูไอเดียการโพสต์ของหลาย ๆ เพจ หรือลองไปดูรูปภาพสวย ๆ จากหลาย ๆ ที่ และนำมาปรับใช้กับเราบ้าง แต่ไม่ใช่ไปลอกหรือ Copy เค้ามานะ คุณก็ต้องใส่ไอเดียตัวเองลงไป และคิด Content เอง
5.ตอบแช็ตไว เพิ่มโอกาสการขาย
การตอบแช็ตไว ช่วยให้เรามีโอกาสในการปิดการขายไวขึ้น เพราะการที่ลูกค้าทักเรามานั้น เค้าอาจจะทักเพจคู่แข่งของเราด้วย ถ้าเราตอบไว ลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อได้ไว และมั่นใจอีกด้วยว่าถ้าหากเค้ามีปัญหาจะมีคนคอยช่วย คอย Support เค้าตลอด
6.Interact กับลูกค้าด้วย Facebook Live
Live เป็นที่ฮอตฮิตมากในตอนนี้ และนักการตลาดหลาย ๆ คนก็แนะนำให้ Live ขายของ ถ้าหากคุณเป็นคนที่มีบุคลิกที่ดี พูดเก่ง มีภาษาที่ดี อย่ามัวเขินอายไปเลย คุณ Live ขายของดีกว่า เพราะการที่คุณ Live จะมีคนที่สนใจสินค้าของคุณอยู่เต็มไปหมด และโอกาสในการปิดการขายก็ไวกว่าทิ้งเพจไว้เฉย ๆ ตั้งหลายเท่า วิธีการ Live ที่ดีคุณต้องเตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์ เตรียมสินค้า แล้วยิ่งถ้าหากคุณคุณมีผู้ช่วยอ่านเมนต์ ตอบ CF ไว ส่งของไว บริการหลังการขายดี ๆ ล่ะก็ คุณเตรียมตัวไปซื้อตู้เซฟเลย คุณใกล้จะเป็นคนรวยแล้ว
7.เรียนรู้การยิง Ads
มันต้องมีบางจังหวะบ้างที่เพจคุณเงียบมาก เพราะการแข่งขันข้างนอกมันเดือดมาก ใคร ๆ ก็ไปเข้าเพจคู่แข่งคุณ วิธีการแก้ปัญหาก็ไม่ยากเลย “ใช้เงินแก้ปัญหาไปซะ” แต่เราก็ไม่ได้แนะนำให้ยิงโฆษณาไปเรื่อยแบบไม่มีการวางแผน เพราะปัจจุบันค่า Ads ก็ราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นคุณต้องวางแผนก่อนว่าคุณจะยิง Ads ไปใส่ใคร ถ้าหากคุณมีฐานข้อมูลลูกค้าเดิมเก็บไว้ล่ะก็ เวลานี้แหละ นำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ และยิง Ads ที่มี Content น่าสนใจ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเห็นโพสต์มากขึ้น และปิดการขายได้ง่ายขึ้น
สุดท้าย หลายคนเครียดมากที่ยอด Like ยอด Share ไม่เพิ่มขึ้นเลย แต่คุณไม่ต้องกังวลไปนะ ยอด Like เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำการตลาด สุดท้ายแล้ว หลายร้านก็หลังบ้านวุ่นวายไปหมด ลูกค้ามาแบบไหลมาเทมา แต่ยอด Like Page น้อย ก็มี ประเด็นสำคัญของการเพิ่มยอดขายใน Facebook นั้นต้องมีการวางแผนอย่างดี คุณต้องรู้จักลูกค้า และสักวันจะรู้ใจลูกค้า ไม่ว่าจะจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมดแน่นอน
Author : Pajaree Kanmaneelert