มือใหม่หัดขายออนไลน์ ต้องเตรียมตัวยังไงกับตลาด Red Ocean

เมื่อการเข้าแอพลิเคชั่นช็อปปิ้งกลายเป็นเรื่องปกติในยุคนี้ เผลอ ๆ จะเข้าบ่อยกว่าการเดินไปช็อปปิ้งที่ร้านค้าจริงเสียอีก ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่ตลาดร้านค้าออนไลน์มีความคึกคัก และหอมหวานชวนให้ใคร ๆ ก็พากันมาเปิดร้านออนไลน์กันหมด

ขณะเดียวกัน ความคึกคักนี้ก็ทำให้หลายร้านเจ็บตัวเหมือนกัน ด้วยความที่เป็นตลาดแบบ Red Ocean แข่งขันกันสูง สินค้าแทบไม่มีความต่าง ร้านไหนก็ขายของเหมือน ๆ กัน ดีไม่ดีไปรับสินค้ามาจากแหล่งเดียวกันด้วยซ้ำ

ในตลาดออนไลน์เองก็มีทั้งร้านค้าที่เก๋าเกม ขายของออนไลน์มานาน รู้ทิศทางผู้ซื้อ รู้ทิศทางตลาด ขายดีไปซะหมด และก็ยังมีทั้งร้านค้าหน้าใหม่ ไม่รู้ว่าเราจะเริ่มยังไง ลองนำสินค้ามาขายและก็ขายไม่ออก ยอดขายไม่ถึงเป้า

Red-Ocean

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สินค้า ปัญหาอยู่ที่การวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ (Online Marketing Strategy) ที่มีองค์ประกอบ 3 อย่างที่เข้าใจง่ายนี้
1. รู้จักสินค้าตัวเองดีพอ
2. ช่องทางออนไลน์ที่ใช่กับเรา
3. ขนส่งที่เหมาะกับร้านเรา


1. รู้จักสินค้าตัวเองดีพอ

online shopping

การรู้จัก Product ตัวเอง ไม่ใช่การที่เรารู้แค่เราขายเสื้อ ขายอาหารเสริมแค่นั้น


รู้จักลูกค้าตัวเอง ตอบให้ได้ว่าขายเสื้อให้ใคร เพศ, ช่วงอายุ, การศึกษา, รายได้, อาชีพ, เงินเดือน, Social Media ที่เข้าบ่อยที่สุด, จำนวนชั่วโมงการเล่น Social, จำนวนเงินเฉลี่ยที่ช้อปปิ้งต่อครั้ง, แอพธนาคารที่ใช้โอนเงิน, Influencer ที่ติดตาม, คนที่ปรึกษาก่อนตัดสินใจซื้อ, ของแถมที่สนใจ ต้องรู้ลึกถึงขั้นนี้เลย


สินค้าเราเป็นที่ฮอตฮิตในช่วงนี้มั้ย ต้องส่อง Trend ของตลาดออนไลน์เสมอ เพราะแค่คุณช้าไป 1 นาที คู่แข่งเราทำยอดขายนำเราไปไม่รู้กี่หมื่นบาท มาดูตลาดออนไลน์ทั่วโลกตอนนี้กัน ว่าสินค้าแบบไหนกำลังเป็นที่นิยม

Oberlo

แหล่งที่มา : https://www.oberlo.com/statistics/top-online-shopping-categories

การพยากรณ์ของ Oberlo บอกว่า ตลาดช้อปปิ้งทั่วโลกจะมีสินค้าประเภท Fashion นำเพื่อนมาแต่ไกลถึง 596.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นใครขายสินค้า Fashion คุณมั่นใจได้เลยว่ากำลังเป็นที่นิยม

   Fashion (สินค้าแฟชั่น)
         สินค้าแฟชั่นเป็นสินค้าที่นิยมในการแต่งตัว ก็คือเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง แน่นอนว่าคนซื้อเยอะก็จริง แต่อย่าลืมไปว่าคู่แข่งก็เยอะมหาศาลเช่นกัน
   Toys, Hobby & DIY (ของเล่น, ของสำหรับงานอดิเรก และสินค้าทำมือ)
         กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ซื้อมาเพื่อใช้ไม่นาน มีการขายมือสองได้ และซื้อเป็นช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตเท่านั้น ไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นต้องตามกระแส มีความแปลกใหม่และไม่เหมือนใคร
⏩   Electronics & Media (เครื่องใช้ไฟฟ้าและมีเดีย)
         สินค้าที่ทุกคนต้องมีเพื่อความสะดวก แต่ซื้อไม่บ่อยนัก การตัดสินใจซื้อ ถ้าลูกค้าติดแบรนด์ก็จะซื้อเพราะแบรนด์ไปเลย แต่ก็มีลูกค้าบางกลุ่มที่เน้นราคาถูกสุด ๆ ไปเลย คู่แข่งสำคัญนอกจากร้านค้าออนไลน์แล้วก็มีร้านค้าออฟไลน์ ร้านค้าบนห้างที่ขายลดราคาเกลื่อน
⏩   Food & Personal Care (อาหารและของใช้ส่วนตัว)
         สินค้าที่ทุกคนต้องมี ต้องกิน ต้องใช้ไปตลอดชีวิต
                  อาหาร - หมดอายุไวมาก การขนส่งต้องไว และเซฟกับสินค้าเราไม่ให้บูดหรือรสชาติเปลี่ยนไป
                  ของใช้ส่วนตัว - ของที่หมดแล้วต้องซื้อ บางคนซื้อใช้คนเดียว บางคนซื้อให้คนที่ครอบครัวใช้ด้วย เน้นการขายแบบพ่วง เช่น ซื้อยาสีฟันแถมแปรงสีฟัน จะดึงดูดให้คนกดซื้อ
⏩   Furniture & Appliances (เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์)
         สินค้า High Involvement หรือสินค้าที่ต้องตัดสินใจในการซื้อสูง ราคาสูง อายุการใช้งานนาน และกินพื้นที่การใช้สอยในที่อยู่อาศัย ต้องเน้นเนื้อหาความทนทาน ความแข็งแรง ธีม สี รูปแบบที่เข้ากับการตกแต่งห้องของคนในปัจจุบัน เช่น ธีมมินิมอลสีเบจสำหรับคนวัยทำงานชอบตกแต่งห้อง



2. ช่องทางออนไลน์ที่ใช่กับเรา


    “เราจะไปขายในไหนดี ??” แน่นอนว่า Channel เป็นสิ่งที่ตัดสินใจยากที่สุดเลย ถ้าจะให้แนะนำแบบมือโปรก็คือ เข้าไปขายทุกที่เลยจะดีมากกกกก แต่ด้วยความที่เราเป็นมือใหม่ ถ้าเข้าทุกช่องทางเลยจะดูแลบริหารยาก ดังนั้นเข้าไปในบาง Channel แต่ก่อให้เกิดยอดขายได้มากจะดีกว่า


    Online Channel ในไทยมีเยอะแยะมากมาย และแต่ละ Channel นั้นจะมีข้อดี/ข้อจำกัดดังนี้

 

Facebook

ข้อดี ?
▪️ เผยแพร่ได้เร็ว หากยอดไลค์ หรือแชร์เยอะ มีโอกาาสที่คนเห็นได้เยอะมาก
▪️ ผู้ใช้เยอะมากที่สุดในบรรดาทุก Social Media
▪️ ทำการโฆษณาได้ง่าย เพราะ Facebook อำนวยความสะดวกให้อย่างดี


ข้อจำกัด ?
▪️ ค่าโฆษณาเริ่มสูงขึ้น
▪️ คู่แข่งเยอะมาก ยิ่งถ้าเป็นสินค้าทั่วไป เราต้องลงทุนเยอะขึ้น
▪️ ร้านไม่มีชื่อเสียงโอกาสติดยาก ต้องหาวิธีเพิ่มยอดไลค์โดยกาารยิง Ads เพิ่มเรื่อย ๆ



Instagram

ข้อดี ?
▪️ เจาะกลุ่มวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี เหมาะกับสินค้าสำหรับวัยรุ่น
▪️ ผู้ใช้เยอะ เนื่องจากมี Facebook เป็นเจ้าของ
▪️ ถ้ารูปสวยโดดเด่น จะมีโอกาสในการกดซื้อทันที


ข้อจำกัด ?
▪️ หมดอายุง่าย แค่โพสไป 1 สัปดาห์ก็ทำให้โพสดูเก่าแล้ว
▪️ หากคนเห็นเป็นโฆษณาและไม่มีความสนใจ จะทำให้โพสถูกเลื่อนลงไปได้ง่าย
ค่าใช้จ่ายสูง



YouTube


ข้อดี ?
▪️ สร้างภาพจำได้ง่าย
▪️ เน้นวิดีโอ ถ้าทำ VDO Production ดี ๆ มีโอกาสเกิดในคลิปเดียว
▪️ เมื่อยอดวิวเยอะ มีโอกาสที่สอนเซอร์จะเข้า
▪️ มี Influencer ให้เลือกมากมายหลาย Category

ข้อจำกัด ?
▪️ ต้นทุน Production เองสูง
▪️ ค่าจ้าง Influencer สูง
▪️ ถ้า Influencer เสียชื่อเสียง แบรนด์เราจะเสียไปด้วย
▪️ ต้องใช้เวลาในการสร้าง Awareness
▪️ ถ้าเป็นโพสเกี่ยวกับการขายของ คนมักจะกดข้าม



OwnWeb

ข้อดี ?
▪️ สามารถสร้างได้ตามใจทุกอย่าง อยาก Custom อะไร ปรับแต่งนั่นนี่ทำได้เองครบ
▪️ กระบวนการขายทุกอย่างจะจบในเว็บของเรา
▪️ ไม่ต้องเสียเงินค่า Commission ให้กับ Platform ใด ๆ
▪️ มีเว็บไซต์ฟรี สำเร็จรูปให้ทำ Website เองเยอะมาก

ข้อจำกัด ?

▪️ การดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามา Website เราเองทำได้ยากในการสร้าง Awareness
▪️ การพัฒนา Website ทำได้ยาก ใช้เวลานาน
▪️ จ้างผู้พัฒนามีค่าใช้จ่ายสูง ยิ่งระบบขายซับซ้อนมาก ยิ่งจ่ายมาก


Google

ข้อดี ?
▪️ สำหรับธุรกิจที่ต้องการทำกิจการระยะยาว และขายสินค้าน้อยชิ้น
▪️ ยั่งยืนกว่า หากติดหน้าแรกและสามารถลดค่าใช้จ่ายเหลือ 0 บาทได้

ข้อจำกัด ?
▪️ มีความซับซ้อน และต้องดูแลตลอดเวลา
▪️ ค่าใช้จ่ายในช่วงแรกสูงมาก
▪️ หากเจอคู่แข่งที่แข็งแรงจะต้องลงทุนมากในการซื้อ Keyword


LAZADA SHOPEE

ข้อดี ?

▪️ เป็น Shopping mall Online
▪️ ใคร ๆ ก็เข้ามาเพื่อซื้อสินค้า
▪️ ซื้อง่ายขายคล่อง จบที่เดียว
▪️ โปรโมชั่นมีมาทุกเดือน 11.11 Flash sale โดยที่เราไม่ต้องทำการตลาดเอง
▪️ สินค้าหลากหลายโอกาสที่คนเข้ามาเยอะมาก
▪️ มีการแนะนำสินค้าให้ขึ้นหน้าแรก

ข้อจำกัด ?

▪️ สินค้าเลียนแบบจำนวนมาก
▪️ สินค้าชนิดเดียวกันจำนวนเยอะมากเช่นกัน
▪️ มีการแข่งตัดราคากันตลอดเวลา
▪️ ร้านค้าที่ไม่มี Tag “ร้านแนะนำ” จะมีโอกาสขายน้อย
▪️ ค่าใช้จ่ายในการโปรโมทสูง
▪️ คู่แข่งร้านจีนเริ่มเข้ามาแข่งขันในตลาดไทย


3. ขนส่งที่ควรใช้

Logistics


สมัยก่อนเรามีแต่ไปรษณีย์ไทย แต่ปัจจุบันมีแบรนด์ขนส่งเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก หลายคนเลือกขนส่งได้ไม่ตรงกับสินค้าของเรา ก็สามารถทำให้เราเสียเงินเหมือนน้ำซึมบ่อทรายโดยไม่รู้ตัว รู้อีกที “อ้าวว ! ทำไมกำไรน้อยจัง” ก็…เป็น....ได้
ขนส่งแต่ละเจ้านั้นจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ดังนั้นมาดู Criteria ในการเลือกขนส่งแต่ละเจ้า และนำไปพิจารณาว่าเจ้าไหนเหมาะกับเรามากที่สุด

Criteria ในการเลือกขนส่ง
▶️ ราคาค่าส่ง
▶️ Size ในการรับสินค้าไปส่ง
▶️ พื้นที่ให้บริการการส่ง
▶️ วัน/เวลาในการให้บริการ
▶️ ความเร็วในการส่ง
▶️ คุณภาพสินค้าตอนของถึงมือลูกค้า
▶️ มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
▶️ ความเสถียรของเว็บไซต์ตรวจเช็คสถานะ
▶️ มีบริการมารับสินค้าถึงที่
▶️ การรับประกันสินค้า

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นไกด์สำหรับมือใหม่หัดขายของออนไลน์ อย่างไรก็ตามถึงแม้การแข่งขันในตลาดออนไลน์จะดุเดือดแบบ Red Ocean ก็ตาม แต่ถ้าหากเราได้ลองผิดลองถูก และเดินไปในทางที่เหมาะสมกับเรา เราก็จะจับทิศทางตลาดได้และขายของได้ดีอย่างแน่นอน
 


ที่มา : https://www.moneybuffalo.in.th/

https://www.marketingoops.com/

https://www.oberlo.com/statistics/top-online-shopping-categories


Author : Pajaree Kanmaneelert